ใช้เทคโนโลยีอะไรป้องกันไม่ให้ IP ติด blacklist

เนื่องจากระบบ Email Server ปัจจุบันมีปัญหาเรื่อง IP ติด Blacklist ด้วยจากสาเหตุดังนี้

  • Email ภายใน Server มีจำนวนมาก
  • การจำกัด Sent limit ต่อวัน
  • อุปกรณ์ติด Spam

เทคโนโลยีอะไรป้องกันไม่ให้ IP ติด blacklist คืออะไร ?

คือเทคโนโลยีมีเทคโนโลยี AI ซึ่งใช้ Big Data จำนวนมากซึ่งสามารถคาดคะเนกิจกรรมการส่ง Spam เช่นมีการส่งออกจากประเทศที่ผู้ใช้งานไม่เคยใช้งานเลยเช่น NG User ดังกล่าวจะถูกระงับการส่งออกทันทีเนื่องจากวิธีนี้เป็นการป้องกันไมให้ IP ติด Blacklist ต่างจากเทคโนโลยีก่อนหน้านี้ซึ่งเป็นการกำหนด Limitต่อวันเท่านั้น แต่ก็เป็นการแก้ไขที่ไม่ตรงจุดเนื่องจาก User ยังสามารถ reset sentlimit แล้วส่งออกได้อีก

 

เทคโนโลยีป้องกันไม่ให้ IP ติด blacklist บทบาทสำคัญต่อ Mail Server อย่างไร​ ?

ถือว่าเป็นหัวใจของการให้บริการ Mail Server หาก IP การส่งออกติด Blacklist จำนวนมากความน่าเชื่อถือของระบบจะมีน้อยด้วยเช่นกัน

 

การเปรียบเทียบความปลอดภัยระหว่างเทคโนโลยีอะไรป้องกันไม่ให้ IP ติด blacklistและไม่ใช้เทคโนโลยีป้องกัน

ใช้เทคโนโลยีอะไรป้องกันไม่ให้ IP ติด blacklist

  • รู้สาเหตุและแก้ไขได้ตรงจุด
  • ระงับการส่งออกก่อนที่ Sentlimit จะเต็ม
  • Ip ไม่ติด Blacklist ของระบบปลายทาง

ไม่ใช้เทคโนโลยีป้องกันIP ติด blacklist

  • ต้องรอจนกว่า Sent Limit เต็มผู้ใช้งานดังกล่าวจึงไม่สามารถส่งออกได้
  • IP การส่งออกติด Blacklist ของระบบปลายทาง
  • ต้องใช้ Gateway อื่นส่งออกแทนซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ

 

เทคโนโลยีป้องกันไม่ให้ IP ติด blacklist เหมาะสำหรับผู้ใช้งานในกลุ่มใด ?

เหมาะสมหรับผู้ใช้งานทั้ง User และ Admin ผู้ดูแลระบบ Email

 

เป้าหมายสูงสุดของเทคโนโลยีป้องกันไม่ให้ IP ติด blacklist  คืออะไร ?

เทคโนโลยีมีเทคโนโลยี AI มาตรวจสอบขาส่งออกเป้าหมายคือให้ระบบ Email ขาส่งออกไม่ติด Blacklist. ของระบบปลายทาง

 

คำถามที่พบบ่อย

IP ติด Blacklist คืออะไร ?

คือ IP การส่งออกของ Mail Server ติด Blacklist ของระบบปลายทางเนื่องจากสาเหตุIP ดังกล่าวมีารส่ง Spam เข้าระบบปลายทางเกินกำหนดทำให้ระบบปลายทาง Blacklist IP

 

วิธีป้องกันไม่ให้ IP ติด Blacklist

  • Scan Malware ด้วยโปรแกรม Malwarebytes
  • เปลี่ยน password อย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 3 เดือน
  • ก่อนเปิดไฟล์ให้ตรวจสอบไฟล์แนบก่อนทุกครั้งเพื่อไม่ให้ติด Spam

บทความที่เกี่ยวข้อง

SSL ในการใช้งาน Mail server มีความสำคัญอย่างไร ?

ระบบตรวจสอบการ Hack ของเทคโนโลยีแลนด์ทำงานอย่างไร

Fake Sender Name Detection ในระบบอีเมล์ของเทคโนโลยีแลนด์คืออะไร ?

ระบบตรวจจับการส่งออกที่ผิดปกติแบบ Realtime ของเทคโนโลยีแลนด์คืออะไร ?

การกรองอีเมลที่เป็นไวรัส ในไฟล์ *.zip ช่วยป้องกันไวรัสได้อย่างไร

ระบบตรวจสอบการ Hack ของเทคโนโลยีแลนด์ทำงานอย่างไร

ระบบตรวจสอบการ Hack ของเทคโนโลยีแลนด์ คืออะไร?

เป็นระบบการตรวจสอบโดยเปรียบเทียบพฤติกรรมการใช้งานจริงของ User  นั้นๆโดย Machine Learning และเก็บไว้ใน Big Dataที่มีความเสถียรสูงเมื่อ User ทำการส่ง Email ออกแต่ละครั้งระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์และสามารถแยกแยะได้อย่างชัดเจนและแม่นยำ

 

ระบบตรวจสอบการ Hack ของเทคโนโลยีแลนด์มีบทบาทอย่างไร?

จะตรวจสอบการใช้งานหรือกิจกรรมของ User ดังนี้

กิจกรรมที่ปกติ

  • ส่ง Emailใน Location ที่ user ใช้งานอยู่เป็นประจำ
  • ส่ง Emailข้อความไม่มีคำหยาบหรือเนื้อหาที่ไม่มี spam
  • ส่ง Email ไม่เกิน Limit ภายในระยะเวลาที่กำหนด
  • ไม่ส่ง Free Email เกิน Limit ที่ระบบกำหนด

กิจกรรมที่ไม่ปกติ

  • ส่งออกจากประเทศที่ติด Blacklist เช่น NG
  • ส่งข้อความที่มีคำหยาบหรือเนื้อหาเป็น Spam
  • มีการส่ง Free Email ออกไปหา Email ที่ไม่เคยติดต่อ
  • มีการใช้งานส่ง Email หลายอุปกรณ์ภายในระยะเวลาที่ระบบกำหนด

ระบบตรวจสอบการ Hack ของเทคโนโลยีแลนด์เหมาะกับกลุ่มใด?

เหมาะสำหรับผู้ใช้ User และผู้ดูแลระบบที่ต้องสามารถตรวจสอบและแก้ไขหาก Email ของตนเองหรือบุคคลภายในองค์กรติดปัญหา Email. ถูก Hack

 

เป้าหมายสูงสุดของระบบตรวจสอบการ Hack ของเทคโนโลยีแลนด์คืออะไร ?

เพื่อป้องกันความเสียหายทั้งข้อมูลและความเสียหายด้านธุรกิจรวมไปถึงทรัพย์สินของบริษัทลูกค้าเนื่องจาก Email ที่สนทนาอยู่นั้นอาจจะไม่ใช่คู่ค้าตัวจริง

 

คำถามที่พบบ่อย

AI Security and Machine Learning by Technology Land. คืออะไร

เป็นระบบที่พัฒนาขึ้นมาจาก Big Data โดยใช้การตรวจสอบจากพฤติกรรมการใช้งานจริงโดยระบบ AI การวิจัยนี้ประสิทธิภาพที่ช่วยให้ลูกค้าของเรานั้นปลอดภัยมากขึ้น ทำให้ระบบของเราได้รับการตีพิมพ์และยอมรับในวารสารด้านเทคโนโลยีระดับนานาชาติในงานประชุมนานาชาติด้านการสื่อสารขั้นสูง ซึ่งเป็นการประชุม ณ ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากล

 

SPF, DKIM และ DMARC  คืออะไร

SPF คือ ค่าที่ระบุ Server email ที่ได้รับอนุญาติให้ส่ง email ในนาม Domain ผู้ส่งซึ่งจะระบุเป็น IP Address ของ mail server

DKIM คือ เป็นตัวที่เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับ Mail Server ของผู้ส่ง เป็นลายเซ็นดิจิทัลที่เอาไว้ประทับตราที่ Header (ส่วนหัวของอีเมล) ว่าเราใช้ Server ของเราเองส่ง หรือไม่ ซึ่งค่า DKIM จะช่วยป้องกันการ Phishing Mail ได้อย่างมาก

DMARC คือ การต่อยอดมาจาก SPF และ DKIM ซึ่งป้องกันการสวมรอยด้วยบัญชีผู้ส่ง เพื่อล่อลวงให้ผู้รับติดต่อสื่อสารกับผู้ส่งผิดคน อาจจะเป็นกลลวงของมิจฉาชีพที่มีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ เกี่ยวกับการ Hack มาก่อน

 

วิธีแก้ไขไม่ให้โดน spam หรือ Virus

สแกนไวรัสด้วยโปรแกรม Malwaerbyte และมีการเป็น Password อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยเดือน3 เดือนครั้ง

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

ระบบตรวจจับการส่งออกที่ผิดปกติแบบ Realtime ของเทคโนโลยีแลนด์คืออะไร ?

Fake Sender Name Detection ในระบบอีเมล์ของเทคโนโลยีแลนด์คืออะไร ?

SSL ในการใช้งาน Mail server มีความสำคัญอย่างไร ?

สาเหตุที่ถูก Bomb Email แบบ Multi-users

ระบบตรวจจับการส่งออกที่ผิดปกติแบบ Realtime ของเทคโนโลยีแลนด์คืออะไร ?

ระบบตรวจจับการส่งออกที่ผิดปกติคืออะไร ?

ระบบตรวจจับกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง เช่น

  • มีการส่งออกจากประเทศที่ไม่เคยส่งออกเลย
  • มีการส่งออกเกิน Limit ที่ระบบกำหนดไว้
  • มีการส่งออกไปหาปลายทางที่ไม่เคยติดต่อ

เป็นการประเมินได้ว่า Email Account ของผู้ใช้งานดังกล่าวอาจจะโดน Hack ได้อย่างแม่นยำและระงับการส่งออกชั่วคราวทันที

 

ระบบตรวจจับการส่งออกที่ผิดปกติมีบทบาทอย่างไรต่อระบบ Email ?

ระบบจะเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานของ User นั้นๆโดย Machine Learning และเก็บไว้ใน Big Data ที่มีความเสถียรสูงเมื่อ User ทำการส่ง Email ออกแต่ละครั้งระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์และสามารถแยกแยะได้อย่างชัดเจนและแม่นยำ

เพื่ออธิบายให้ง่ายขึ้น เราขอยกตัวอย่างกิจกรรมที่ผิดปกติชัดเจน เช่น การใช้งานในหลายๆประเทศพร้อมๆกันใน 30 นาทีซึ่งหมายความว่า Password ของ Email ดังกล่าวอาจจะถูกใช้เพื่อส่ง Spam โดย Bot ที่มี Server อยู่ในหลายๆประเทศ เป็นต้น เมื่อระบบพบกิจกรรมเหล่านี้ก็จะ Block การส่งออกทันทีในเสี้ยววินาที

 

ระบบตรวจจับการส่งออกที่ผิดปกติมีประโยชน์กับกลุ่มใด?

ระบบการตรวจจับการส่งออกที่ผิดปกติมีประโยชน์ต่อผู้ใช้งานะรบบ Email และ Admin ผู้ดูแลระบบ ดังนี้

ประโยชน์ต่อผู้ใช้งานระบบ (User)

  • ป้องกัน Hacker สวมรอยเพื่อส่ง Email ให้บุคคลอื่น
  • นำ Account ไปส่ง Spam/Bomb Email
  • ป้องกัน Malware แอบส่ง Password ออกไปเนื่องจากระบบจะตรวจจับได้

ประโยชน์ต่อผู้ดูแลระบบ (Admin)

  • ป้องกัน IP Server ติด Blacklist ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ป้องกัน Over Bandwidth ในกรณีที่บาง Account ถูก Bomb
  • Server ที่ใช้ในการส่งออกมีความน่าเชื่อถือสูงมากขึ้น

 

เป้าหมายสูงสุดของระบบตรวจจับการส่งออกที่ผิดปกติคืออะไร

เพื่อป้องกัน IP Server ติด Blacklist ของระบบปลายทางและป้องกันความเสียหายขององค์กรลูกค้าทั้งด้านทรัพย์สินและด้านข้อมูล

การทำงานของระบบตรวจสอบ ตรวจสอบจากอะไรบ้าง

ภาพการทำงานของระบบตรวจจับการส่งออกที่ผิดปกติของเทคโนโลยีแลนด์

 

คำถามที่พบบ่อย

โปรแกรรมสแกนไวรัสที่แนะนำคืออะไร

ทางเราแนะนำ Malwarebyte เป็นการสแกนทั้งไวรัสและ malware ทุกไฟล์

วิธีป้องกันไม่ให้ IP ติด Blacklist มีองค์ประกอบอะไรบ้าง

  • ระงับการส่งออกของ Spam ทันที
  • สแกนไวรัสและเปลี่ยน password อยู่สม่ำเสมอทุกๆ 3 เดือน
  • ตรวจสอบไฟล์ใน Email แนบก่อนเปิดเพื่อป้องกันการติด Spam ที่อุปกรณ์

Phishing email  คืออะไร

Phishing คือ ภัยอินเตอร์เน็ตที่เกิดจากการหลอกผู้ใช้งาน โดยใช้วิธีการสร้างอีเมล์ต่างๆ หรือเว็บไซต์ปลอมขึ้นมา เพื่อหลอกล่อให้ผู้ใช้งาน เกิดความสับสนในการใช้หน้าเว็บ และทำธุรกรรมต่างๆ บนเว็บไซต์ หรือบล็อกที่ถูกสร้างขึ้นมา โดยจะเริ่มต้นจากข้อความอีเมล์ที่ดูเหมือนกับว่าเป็นการแจ้งเตือนอย่างเป็นทางการจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น ธนาคาร, บริษัทบัตรเครดิต หรือผู้ค้าออนไลน์ที่มีชื่อเสียง

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

Fake Sender Name Detection ในระบบอีเมล์ของเทคโนโลยีแลนด์คืออะไร ?

SSL ในการใช้งาน Mail server มีความสำคัญอย่างไร ?

สาเหตุที่ถูก Bomb Email แบบ Multi-users

การกรองอีเมลที่เป็นไวรัส ในไฟล์ *.zip ช่วยป้องกันไวรัสได้อย่างไร

Fake Sender Name Detection ในระบบอีเมล์ของเทคโนโลยีแลนด์คืออะไร ?

Fake Sender Name Detection คืออะไร ?

ระบบที่ตรวจจับการปลอมแปลง พยายามลอกเลียนแบบชื่อผู้ส่ง (Sender Name) ซึ่งอาจจะทำให้ User เข้าใจผิดและสื่อสารกับ Hacker แทน ซึ่งระบบทั่วไปจะมุ่งเน้นไปที่การตรวจจับ Spam เท่านั้นและไม่สามารถตรวจจับได้

 

Fake Sender Name Detection มีบทบาทอย่างไรต่อระบบ Email Server

เมื่อมี Sender Name ใช้ชื่อ John Dong (Email: john@abc.com) สื่อสารกับ User ของท่านเป็นปกติแต่มีวันหนึ่ง Email ของผู้ส่งซึ่งปกติเป็น john@ab[c].com ถูกเปลี่ยนไปเป็น john@ab[v].com (เปลี่ยนจาก c เป็น v) โดยใช้ชื่อผู้ส่งเป็น John Dong เหมือนเดิมนี่คือกิจกรรมที่ผิดปกติรุนแรงที่อาจจะทำให้ User สื่อสารกับบุคคลอื่นแทน

Fake Sender Name Detection เหมาะสำหรับผู้ใช้งานในกลุ่มใด ?

เหมาะสำหรับผู้ใช้งานระบบ Email องค์ทั้ง User ผู้ใช้งานและAdmin ที่เป็นผู้ดูแลระบบ Email เนื่องจาก Fake Sender Name เป็นการปลอมแปลงชื่อ email หากมีการแจ้งเตือนจากระบบไปยังผู้ใช้งานต้องตรวจสอบ Email ฉบับดังกล่าวอย่างระเอียดอีกครั้ง หากไม่ได้เป็น Email ที่มีการติดต่อต้องแจ้ง Blacklist sender หรือแจ้งให้ทางเราตรวจสอบทันที

 

เป้าหมายสูงสุดของ Fake Sender Name Detection คืออะไร ?

เพื่อป้องกันการสวมรอยของ Hacker หรือผู้ไม่หวังดี และป้องกันความเสียหายขององค์กรจะทำให้ User ไม่หลงกลสื่อสารอาจจะทำการส่งเลขที่บัญชีปลอมเพื่อให้โอนเงินค่าสินค้าและก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจ

 

คำถามที่พบบ่อย

หากเป็น Email ที่ติดต่อกันอยู่แล้วจะแก้ไขอย่างไร

สามารถกดลิงค์ “Email นี้ปลอดภัยไม่ต้องแจ้งเตือนอีก “ระบบจะ Whitelist sender ดังกล่าวโดยอัตโนมัติหาก Email ดังกล่าวส่งเข้ามาอีกจะไม่ถูกแจ้งเตือนจากระบบ

วิธีสังเกต Email Fake Sender Name

บทความที่เกี่ยวข้อง

การกรองอีเมลที่เป็นไวรัส ในไฟล์ *.zip ช่วยป้องกันไวรัสได้อย่างไร

SSL ในการใช้งาน Mail server มีความสำคัญอย่างไร ?

สาเหตุที่ถูก Bomb Email แบบ Multi-users

ทำไม IP ของ Mail Hosting/Server คุณถึงติด Blacklist ซ้ำซาก